อยุธยา เมืองท่องเที่ยววันนี้ ด้วย Soft Power เกิดขึ้นได้จริง
การไปเที่ยวเมืองอยุธยา ช่วงสงกรานต์ ปี 2562 เป็นครั้งที่มีเป้าหมายพาครอบครัวไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ พ่อจะได้ไปด้วยกันได้แบบไม่เหนื่อยมาก ครั้งนั้นขับรถผ่านในตัวเมือง ไม่เห็นนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ตลาดตอนกลางคืนเรียก ตลาดประชารัฐ จัดที่สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีเวทีแสดงศิลปะไทยเป็นรอบๆ รัฐอุดหนุนจัดเป็นพื้นที่ตลาดให้กับคนในเมืองเข้ามาขายอาหาร สินค้าพื้นเมือง ในมุมมองของนักท่องเที่ยวอย่างเราน่าเที่ยวน่าเดินแต่วันนี้ ปี 2566 พื้นที่ตลาดนั้น ไม่มีจัดละ การมองตลาดในแบบ Demand ไม่ใช่ ตลาด physical แบบ Market ถ้ารัฐเปลี่ยนที่จัดไปเรื่อยๆ และชุมชนในเมืองที่ขายของให้กับนักท่องเที่ยว ก็เวียนไปเปิดตลาด ณ ที่จัดได้ จะดีมาก สำหรับในปีนี้ ตลาดนักท่องเที่ยว พบได้ที่งาน Music of World Heritage Ayutthaya ที่วัดมหาธาตุ มุมหนึ่งในพื้นที่สวนสาธารณะบึงพระราม และมางานดนตรีเพราะงานดนตรีจริงๆ
- การเตรียมตัวไปเที่ยวอยุธยารอบนี้ ปักหมุดไว้ก่อน นอกจาก Love Destiny season 2 กำลังฉาย พบว่า กิจกรรมทำบุญตักบาตรเทโว ที่วัดไชยวัฒนาราม คึกคักมาก จึงแถมด้วยการรีรัน Love Destiny season 1 ใน Netflix ไปด้วย หาหลายที่เจอแบบสนุกดีเหมือนเล่นเกมส์ แต่หาบางที่ไม่เจอ เช่น คลองขุนละคร ที่มีโรงละคร โรงน้ำชา 😆เจอแต่ชื่อถนนที่คล้ายๆ กัน
- ข้อดีของการท่องเที่ยวอยุธยารอบนี้คือ ผู้ร่วมทริปคือเพื่อนชาวยุโรป เริ่มต้นทริปก็คุยกันถึงช่วงล่าอาณานิคมสนุกสนาน ดังนั้น นอกจากสถานที่จะน่าสนใจตามประวัติศาสตร์ ทุกสิ่งคือสิ่งใหม่ แวะได้หมด และอยากรู้ อยากลองทุกเรื่อง
- จึงเริ่มจากวัดตอนพระอาทิตย์ตกดิน 🌅
- รู้แค่ว่าอยากเดินเที่ยววัดไทยตอนที่ไม่ร้อน จะได้เหมือนเดินเที่ยวสิงคโปร์ได้เกือบ 24 ชั่วโมง แต่วัดและโบราณสถานแทบทุกที่ปิดตอน 18.00 น. ประสบการณ์คือ ไฟประดับตกแต่งเพื่อความสวยงาม จึงยังคงอันตรายในจุดที่เรามองไม่เห็น เพราะโบราณสถานประกอบด้วยซากอิฐที่เหลืออยู่ จึงมีความขรุขระ เป็นหลุม และหลายจุดย่อมไม่มีรั้ว ทุกคนที่เดินจึงเอาตัวรอดด้วยไฟฉายประจำตัวที่มากับโทรศัพท์ตัวเอง
- บางจุดที่มีค้างคาว มากลางวันเห็นแต่ป้าย พอตกกลางคืน ค้างคาวบินเป็นฝูงภายในเจดีย์เช่นเดียวกันนกบนท้องฟ้าแคบ ถามว่า อยากสัมผัสประสบการณ์หรือไม่ ชาวต่างชาติของเราตอบว่า I don't want to be a Vampire 👹
- กิจกรรมยามเช้า
- ใส่บาตร มีมุมมองใกล้ที่พัก คนท้องถิ่นแนะนำแบบมีที่จอดรถ ให้ไปที่ตลาดหัวรอ (ตลาดเจ้าพรหม ไม่มีที่จอดรถ) และเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่จะซื้อของใส่บาตรสะดวกเลย ดังนั้นกิจกรรมยามเช้าจึงเริ่มที่นี่
- ตามความจริงคือ ตั้งแต่ search เจอว่า วัดพุทไธสวรรค์ พระอารามหลวงอยุธยา มีใส่บาตรแบบพระพายเรือมาเช้า พายกลับวัด 7AM ถามคนท้องถิ่นตลอดทาง คำตอบคือปัจจุบันไม่มีแล้วค่ะ
- อีก search ช่วงน้ำท่วม (Flooding) ปี 2564 ปรากฎว่าอยุธยาดังมากเรื่องใส่บาตรเรือพาย เพราะมีนักท่องเที่ยวนั่งเรือใส่บาตร เด็กๆ พายเรือรับจ้างได้เที่ยวละ 100 บาท OMG! การปรับตัวอย่างยั่งยืนแบบอยู่กับน้ำท่วมได้เช่นนี้เป็นเรื่องดีมาก ได้ค่าจ้าง ดำเนินชีวิตได้ และนักท่องเที่ยวก็ได้ประสบการณ์อีกแบบ แต่ถึงขั้น Adaptation หรือไม่ คงต้องศึกษานิยามก่อนค่ะ
- มีการรับจ้างพายเรือแบบไปกลับระหว่างพื้นที่ใหญ่ (Mainland) และเกาะกลางน้ำ เรียกว่า "เกาะลอย" ถ้าใช้ชีวิตอยู่อยุธยาก็ควรจะพายเรือเป็นหน่อยนะ เพราะที่เรือพายรับจ้างอยู่คือ ขึ้นมา 1 คน ต้องช่วยคนรับจ้างพายด้วย ดูท่าจะพายไม่ไหว แต่ถ้าขึ้นมา 2 คน ใช้ฝีพายแค่ 2 คน ยังพอไหว เนื่องจากมีน้ำวนจากหลายทิศทาง กระแสน้ำจึงเชี่ยวมากที่เกาะลอย
- มุมมองแบบคนท้องถิ่น เจอตลาดสด ตลาดท้องถิ่นเหมือนจะเป็นของมือสอง ตลาดพระเครื่อง และอาหารเช้าที่หาได้ระหว่างทาง มีไข่ลวก กาแฟโบราณ แบบริมน้ำ
- กิจกรรมกลางวัน
- ลองขี่ช้าง iconic ของประเทศไทยกันเลยทีเดียว อัตราสำหรับชาวต่างชาติ 2 ชั่วโมง 400 บาท , 1 ชั่วโมง 200 บาท ทั้ง 2 แบบคนไทย 100 บาท พบว่าช้างที่นี่พอมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ ช้างดูสุขภาพดี เวลาเดินผ่านรั้วเพนียด มีช้างหยุดเล่นกับนักท่องเที่ยวแบบเชื่องมากน่ารักดี อยากให้ช้างสุขภาพดีตลอดไป แต่เข้าใจเลยว่า ช้างกินน้ำและอาหารเยอะมาก คนดูแล ควานช้างต้องผ่านประสบการณ์ช่วงโควิดอย่างโหดจริง
- การเลือกร้านกาแฟ และร้านอาหาร ก็เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ ใช้การเลือกแบบ Vote พบว่า ตาม option น่าสนใจ พบเลยว่า Generation มี Gap จริง เด็กชอบอะไรที่รูปแบบการวางขนาดเสกลไม่ปกติ เด็ก Gen Z เลือกก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์ ที่ชามเดียวกินได้ทั้งบ้าน แต่ส่วนใหญ่ในทริปเป็น Millennium Generation เลือกจากภาพสวย 555 สรุปโดน Google หลอกว่าร้านเปิด เหตุการณ์นี้เคยเจอบ่อยๆ ใน Wongnai เพราะข้อมูลไม่อัพเดทหลังช่วงโควิด ท่าทางยุค AI ต้องเข้าละ คัดกรองข้อมูลช่วงก่อนและหลังโควิดก่อนเลย แอปจึงจะกลับมาเวิร์คอีกครั้ง
ร้านนี้มีหนังสือน่าอ่านเยอะทีเดียว
- สิ่งที่คิด คือ Soft Power มาหรือไม่ แต่ที่เราเห็นตอนแรก มีแต่คนไทยนะที่เปลี่ยนชุดไทยถ่ายรูป เดินเที่ยว ที่วัดไชยวัฒนาราม เห็นชาวต่างชาติน้อย เมื่อถามว่า Q: Would you like to dress in Historical Thai? A: Yes I'd like to try it on หลังจากนั้น พบว่า มีหลายคนเข้ามาถ่ายรูปกับเพื่อนต่างชาติ มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ จึงเห็นอีกมุมว่า Soft Power เมื่อคนไทยช่วยกันเริ่มก่อน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็สนุกในการทำกิจกรรมร่วมกับคนไทยเป็น Next Wave หรือยิ่งถ้า ทุกคนใส่ชุดไทยเข้าวัดไชยฯ ได้ คงถ่ายรูปได้ง่ายและสวยย้อนยุคมากทีเดียว ....พัชรกล่าวไว้ ในฐานะคนถ่ายรูป ที่ต้องหามุมหลบไปหลบมาอยู่หลายรอบ
- ก่อนขับรถกลับ กรุงเทพฯ ช่วงสัปดาห์งานบุญทอดกฐิน
- แวะเติมกาแฟ ทำให้ไม่ง่วงหลับ และชวนคนขับคุยได้ตลอดทาง จบทริปแบบได้สอนเด็กอีกเรื่องก่อนกลับถึงบ้าน คุ้มค่ามากค่ะ 😊